จะสร้างความสุขให้ชีวิตอย่างไร บทที่ 1

จะสร้างความความสุขให้ชีวิตอย่างไร?
วันนี้ไปอ่านเจอคำสอนแนวคิดของท่านจี้กงมาเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ในการสร้างแนวคิดในความสุขให้กับชีวิตเราได้ จึงนำมาให้ทุกท่านได้รับรู้บ้าง หวังว่าท่านจะนำไปใช้เป็นแนวคิดของท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ เรามาดูกันดีกว่า ว่าจะสร้างความสุขให้ชีวิตอย่างไรกันครับ


๑.ความสุข  คือ ใจปีติยินดี ใจขอบคุณ

ใจปีติยินดี
ใจปีติยินดีตลอดเวลามีแต่ใจปีติยินดี สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ร่วม กับเราล้วนสร้างบุญสัมพันธ์กับเรา ภรรยาคลอดลูกแล้ว ทุกคนล้วนต้องไปทำงาน ไม่มีแม่ย่ายายคอยเลี้ยงลูกให้เจ้าต้องจ้างแม่นมมาช่วยเลี้ยง เพราะฉะนั้นบางครั้งแม่ย่ายายบ่นว่าบ้าง เจ้ายังต้องขอบคุณท่าน เพราะว่ามีแม่ย่าจึงจะมีสามีเรา และยังเลี้ยงลูกให้เราอีก เราจึงได้ไปทำงานโดยไม่ต้องเป็นห่วง แม่ย่าก็ต้องขอบคุณลูกสะใภ้ที่ช่วยเหลือครอบครัวธรรมะของเราเป็นสิ่งปกติธรรมดา อย่าไปคิดไกลและลึกลับมหัศจรรย์เกินไป ถ้าหากเธอสามารถปกครองดูแลครอบครัวให้ดีอยู่เสมอ การบำเพ็ญธรรมจะต้องมีแต่ความสุข เพราะสิ่งที่จะต้อง เกี่ยวพันกับเราอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลานั้นคือ ชีวิตกับครอบครัว เพราะฉะนั้นอาจารย์จึงเรียกร้องให้พวกเธอเริ่มต้นทำจาก ครอบครัวให้เต็มไปด้วยใจปีติยินดี โดยเฉพาะผู้ที่แต่งงานแล้ว วันนี้ต้องตั้งใจฟัง ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ก็ให้ถือเป็นตำราเลือกคู่ที่ลํ้าค่ามีประโยชน์ต่ออนาคตไม่จบสิ้น เพราะฉะนั้นการมีใจปลื้ม ปีติมารองรับทุกสิ่งทุกอย่างในครอบครัวเรา

ใจขอบคุณ
ใจขอบคุณทุกคนที่สามารถช่วยเราได้ คนที่ไม่มีบุญคุณต่อเจ้า แม้จะเป็นผู้คอยเคี่ยวกรำเจ้า เจ้าก็ต้องขอบคุณเขาวันนี้ เจ้ามีนิสัยเย่อหยิ่ง อยู่ในครอบครัวเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของพ่อแม่ ไม่มีใครกล้าพูดว่าเจ้า เจ้าแต่งงานมาอยู่ที่นี่แล้ว มีคนว่ากล่าวเจ้า เนื่องจากเขาต้องการให้เจ้าดี เขาจึงว่ากล่าวเจ้า เจ้าจึงต้องมีใจปีติยินดี มีใจขอบคุณไปขอบคุณเขาเช่นนี้ความสุขจึง จะมาสู่ตัวเจ้าสู่ครอบครัวเจ้าได้การเริ่มต้นของความสุขนั้น จะต้องเรียกร้องทางใจความสุข จะหาจากไหนหาจากใจ ความมีบุญบารมีทั้งหมดนั้น ไม่ห่างจากใจ ใจเปลี่ยนรูปก็เปลี่ยน (หน้าตาโหงวเฮ้ง)บุญตอบสนองอยู่ที่จุด พุทธจิตไม่ต้องไปหาจากภายนอก ทำไมหมอดูทุกวันนี้จึงมีรายได้งาม? เพราะเวไนยมืดบอดอวิชชา คิดอยากจะหาสิ่งภายนอกมาเหนี่ยวรั้งหันเหชะตาชีวิต ชะตาชีวิตก็คือ แรงกรรมอะไรเรียกแรงกรรม? เวไนยเราๆ ท่านๆ ตั้งแต่เกิดถึงตาย ถึงเดี๋ยวนี้ ความคิดกับการกระทำรวมกันทั้งหมด เรียกว่าแรงกรรม เพราะฉะนั้น เมื่อชะตากรรม (ชีวิตบุพชาติ) พวกเจ้าก็ถูกชะตาครอบงำ ไม่ใช่ไปครอบงำชะตา ไม่บำเพ็ญไม่รู้จักใจ ไม่คิดเปลี่ยนแปลงทางจิตใจคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตบุพชาติ เหมือนการเปลี่ยนแปลงฮวงซุ้ย (หลุมฝังศพ) เปลี่ยนแปลงชื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไข ประตูใหญ่ของบ้านล้วนไม่ใช่วิธีถูกต้องล้วนเป็นสิ่งภายนอกในใจมีพุทธะ ก็คือ พุทธะ ไปหาพุทธะจากภายนอก ของใจห่างไกลทาง อย่าไปยึดติดรูปลักษณ์ทั้งหลายทั้งปวง ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงฮวงซุ้ย ดูหมอ แน่นอนพวกเจ้าต้องการใจสงบ ทำให้ใจสงบก็ดีแล้ว เกิดถูกหมอดูบอกว่า เมื่อนั้นเมื่อนี้ จะมีเคราะห์ภัย ในใจมีนิสัยความเคยชินที่ไม่ดีไม่แก้ใข ไปสะเดาะ เคราะห์ภายนอก ความจริงก็แก้ไม่ได้อยู่แล้ว เคราะห์ร้ายจริงๆ ต้องสะเดาะเคราะห์ที่ใจนิสัยไม่ดีไม่เปลี่ยนแปลง สามีภรรยาเจอหน้ากันเหมือนศัตรู สะใภ้กับแม่ย่าเหมือนเป็นศัตรูกัน เรื่องร้ายเหล่านี้จะลบล้างอย่างไร? นี้เป็นพื้นฐานที่สุด 
เพราะฉะนั้นต้องเรียกร้องตัวเอง ถูกใครด่าสักคน ก็เท่ากับสะเดาะเคราะห์หมดไปครั้งหนึ่ง นี่เป็นการบำเพ็ญหล่อเลี้ยงจิตของเรา เราไม่ยอมรับยังกลับตอบโต้กลับไป เรื่องร้ายจะหมดไปได้อย่างไร? ยิ่งด่าก็ยิ่งรุนแรงใช่ไม่ใช่ ฉะนั้น ความสุข คือ ใจปีติยินดี ใจขอบคุณ

ยังไม่จบนะครับคราวหน้าเรามาดูแนวคิดและคำสอนบทที่สองกันต่อครับ หวังว่าทุกท่านคงพอเข้าใจนะครับ คำพูดอาจจะงงไปหน่อยครับแต่ก็ต้องลองอ่านสักสองรอบครับแล้วจะเข้าใจครับ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น